ออกมาชี้แจงแล้วเมื่อเช้านี้ (26 มี.ค.) ในงานบวงสรวงละคร ล่าทรชน และ เงา ณ.ตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ สำหรับ ฉอด สายทิพย์ มณตรีกุล ณ อยุธยา กับกระแสที่ว่าโดนปลดผ่าฟ้าจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารสื่อธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ซึ่งทำหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ GMM 25 แถมยังประเด็นที่ ต๊ะ นรากร โพสต์ข้อความปริศนาแปลกๆว่า “ได้ยินมาว่าฟ้าผ่าที่ GMM 25” งานนี้เจ้าตัวควงคู่ เอส วรฤทธิ์ เคลียร์ยาวๆมาว่า
“ยังอยู่ค่ะ โชคดีคือพอหลังจากเป็นข่าวมีกำลังใจมากมาย และทำให้รู้ว่ามีคนอยากได้ตัวไปทำงานเยอะมาก เสนอตัวเข้ามาเยอะ ขอบคุณนะคะ คือตอนนี้เราจะมีการปรับเรื่องโครงสร้าง มีกลุ่มผู้ถือหุ้นเข้ามาด้วย เลยมีการคุยกัน โดยส่วนตัวพี่ฉอดเองหลังๆ ใช้เวลาเยอะมากกับการบริหารช่อง ที่ต้องใช้เวลาเยอะ ใช้พลังเยอะมาก เราตระหนักว่าสำคัญที่สุดของธุรกิจบันเทิงในวันนี้คือคอนเทนต์ ในขณะที่ช่องหรือแพลตฟอร์มต่างๆมีมากมาย เพราะฉะนั้นบทบาทหน้าที่ของพี่อย่าไปคิดเรื่องตำแหน่ง มันเป็นเรื่องหัวโขน ภาระหน้าที่จริงๆคือการจัดการบริหารเรื่องคอนเทนต์ในทุกรูปแบบและทุกแพลตฟอร์ม เดี๋ยวคงจะได้เห็น คือยังไม่ได้บอกใครแต่มีข่าวออกไปก่อน ส่วนที่บอกว่าโดนปลด ตอนนี้โดยตำแหน่งพี่ฉอดคือรองประธานกรรมการ จะดูแลในเรื่องนโยบายต่างๆมากขึ้น”
(ในส่วนของเอไทม์ ยังดูแลอยู่ไหม?) “จริงๆจีเอ็มเอ็มมีเดีย หรือเอไทม์ จะมีน้องๆที่เป็นคนเก่าทำงานดูแลกันมาเยอะ แล้วยังแข็งแรงกันอยู่ พี่รู้สึกว่ามันสมควรแก่เวลาที่ต้องถอยออกมาสักที น้องๆจะได้เติบโต จริงๆคนทำงานยังเหมือนเดิมทุกประการนะคะ ไม่ได้มีการขยับปรับเปลี่ยนไปไหน มีพี่คนเดียวที่จะถอยออกมา”
(ตำแหน่งดูจะสูงขึ้นแต่ทำไมมีข่าวว่าจะโดนปลด?) “อันนี้พี่ไม่ทราบจริงๆเริ่มมีคนโพสต์อะไรต่างๆ ซึ่งอันนั้นไม่ทราบ ถามว่าตกใจไหม ไม่ตกใจค่ะเพราะอยู่ตรงนี้มานาน ได้ข่าวสารแบบนี้อยู่ตลอด”
(ตำแหน่งใหม่ที่ว่าเป็นตำแหน่งที่แขวนเอาไว้เฉยๆ?) “พี่ว่าแขวนหรือไม่แขวนรอดูผลงานเนาะ เรื่องแบบนี้พูดกันไม่รู้ว่าจริงเท็จเป็นยังไง แต่ถ้าพี่โดนแขวนจริงๆ คงนั่งเฉยๆ และไม่มีงานออกมา แต่ตอนนี้ยังมีงานอีกเยอะค่ะ อย่างละครก็ยังทำปกติ กับคุณเอสกับมีข่าวว่าถูกปลดเหมือนกัน ก็ยังต้องทำละครต่อไป”
(มีอีกกระแสว่าจะทำละครแค่สิ้นปีนี้?)“คือเป็นละครเดิมที่แพลนไว้ทั้งหมดจะทำถึงสิ้นปี แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องสร้างงานใหม่ๆออกมาในส่วนของปีหน้า ทั้งละครและรายการด้วย”
(แบบนี้นโยบายของจีเอ็มเอ็ม25เปลี่ยนไปไหม?) “พี่ว่าในแง่การทำงาน ไม่ได้เกิดขึ้นจากใครคนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว มันจะมาจากที่ประชุม มาจากบอร์ด พี่ก็ยังนั่งในบอร์ด เรามีเป้าหมายที่จะไปต่ออีกเยอะ”
(มีความกดดันมากขึ้นไหม?) “พี่ว่าความกดดันมันเกิดอยู่นานแล้วค่ะ เพราะเราต้องทำงานอย่างแข็งแรงมากๆ ธุรกิจตรงนี้มันมีการแข่งขันสูง แล้วยังมีอีกหลายอย่างที่เป็นตัวแปรเข้ามา มันไม่ได้กดดันแค่การสลับตำแหน่งตรงนี้”
(หลายคนตกใจเพราะพี่ฉอดนั่งบริหารมานาน20กว่าปี?) “คือในที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา ที่ต้องผูกติดยึดติดตลอดชีวิต สมมุติว่าพี่ฉอดสร้างเอไทม์มา ทำกรีนเวฟมา พี่เชื่อว่าทุกคนก็ต้องรู้ว่าพี่เป็นคนเริ่มต้นมา แต่ส่วนการทำงานต่อไปมันอยู่กับพี่ไม่ได้ ก็ต้องมีคนรับช่วงต่ออยู่แล้ว”
(เป็นห่วงไหมถ้าเราออกมาแล้ว?) “ไม่ค่ะ พี่ก็ยังอยู่ในตึก น้องๆยังปรึกษาพี่ได้ มีอะไรก็ยังช่วยเหลืออยู่ปกติค่ะ คือถ้าพี่เดินออกไป พี่คงเสียดายและเสียใจ”
(ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพราะเรื่องเรตติ้ง?) “เรื่องปัญหาเรตติ้งมันเป็นมาอยู่ตลอดแล้วค่ะ อย่างที่พี่เคยพูดว่าเราเป็นช่องเล็กๆ เรตติ้งอาจจะไม่ได้สูง แต่เราทำงานสร้างกระแสมาตลอด ทุกคนรู้จักงานของเราเพราะฉะนั้นมันคนละเรื่องกันกับเรตติ้ง พี่ก็เชื่อว่าไม่มีใครสร้างเรตติ้งได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว”
(เกี่ยวกับที่กลุ่มเบียร์ช้างเข้ามาด้วยไหม?) “อันนี้ต้องขอยืนยันว่าทางนั้นน่ารักมากๆ เพราะได้ยินข่าวเหมือนกันว่าเข้ามาเลยทำให้พี่ต้องปรับเปลี่ยน แต่จริงๆไม่มีอะไรเลย ไม่ได้เข้ามาสร้างแรงกดดันใดๆทั้งสิ้นเลย”
(แล้วที่ “ต๊ะ นารากร” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค?) “ไม่รู้จริงๆ แต่ไม่เป็นไรค่ะ พี่ต๊ะเป็นนักข่าว สัญชาตญาณของนักข่าวพอรู้ข่าวอะไรก็แพร่กระจายออกไปเป็นปกติ ไม่ได้รู้สึกอะไร”
