ชาเฮียร์ ชีค ปูจา ชาร์มา ฟิล์ม บงกช มาช่า วัฒนพานิช มาเรียม เกรย์ ไก่ อัญชุลีอร

อหังการ “แอน จักรพงษ์” นำJKN บุกทุกช่อง ล่าสุดส่งซีรีส์ภารตะ 14 เรื่องลงจอช่อง 3 ฟัน 800 ล้าน

Home / ข่าวและกิจกรรมดารา / อหังการ “แอน จักรพงษ์” นำJKN บุกทุกช่อง ล่าสุดส่งซีรีส์ภารตะ 14 เรื่องลงจอช่อง 3 ฟัน 800 ล้าน

        เป็นเจ้าแม่คอนเทนท์ เจ้าของฉายาข้ามเพศหมื่นล้านที่ประสบความสำเร็จอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ สำหรับ “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” CEO บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ล่าสุดเจ้าตัวได้จัดงานยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยได้จับมือกับ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) จัดงาน “The Phenomenon ปรากฏการณ์ภารตะพันล้าน” ขึ้นที่ลาน Central Court ชั้น 1 Central World เพื่อเปิดตัวซีรีส์อินเดีย 14 เรื่อง ซึ่งช่อง 3 เดินหน้าทุ่มงบกว่า 800 ล้าน กวาดซีรีส์ฟอร์มยักษ์เรตติ้งอันดับหนึ่งของอินเดียมาลงจอเขย่าเรตติ้งในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์มหาภารตะ, มหากาลี, อารามบห์ มหารานี, จันทรคุปต์, นันทินี ม่านรักม่านประเพณี, อลิชา แรงพิษริษยา, จันตระกานตา, ซินแบท, กรรณะ, ชานิ, ปริศนาบัลลังก์โบจา รวมถึงซีรีส์นาคิน และ อโศกมหาราช ที่ออกอากาศไปแล้ว

   

        ภายในงานได้รับเกียรติจากทีมผู้บริหาร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) นำโดย นายประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน), นายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารสายกิจการองค์กร, นายสุบัณฑิต สุวรรณนพ รองหัวหน้าคณะผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ, นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารสายงานการตลาด, นายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย และ นายวิบูลย์ ลีรัตนขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เข้าร่วมงาน

   

        นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ที่ต้องบอกว่าพิเศษสุดๆ นั่นก็คือการพาพระนางคู่ขวัญจากซีรีส์มหาภารตะ “ชาเฮียร์ ชีค” (Shaheer Sheikh) และ “ปูจา ชาร์มา” (Pooja Sharmaa) ร่วมด้วยดาวร้ายมาดเข้มอย่าง “เนอร์เบย์ วัธวา” (Nirbhay Wadhwa) จากเรื่องมหาภารตะ และมหากาลี มาให้แฟนละครคนไทยได้เจอตัวเป็นๆ พร้อมฮือฮากับการเดินพรมแดง RED CARPET จากเหล่าศิลปินหญิงเสียงทรงพลัง นำโดย มาช่า วัฒนพานิช, ไก่ อัญชุลีอร, ฟิล์ม บงกช และ มาเรียม เกรย์ ซึ่ง แอน จักรพงษ์ ได้เปิดใจถึงงานในวันนี้ พร้อมเผยว่าปีนี้เจเคเอ็นฯเตรียมผงาดวงการทีวีไทย ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถล่มทลาย ทำให้ตอนนี้มีทีวี 7 ช่องใหญ่ในไทยติดต่อเข้ามาร่วมงาน

   

        “ต้องกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ของทางช่อง 3 ที่ให้ความไว้วางใจ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทั้ง 14 เรื่องนี้มีทั้งคอสตูม มีทั้งความโมเดิร์น ติดหนึบเป็นยาเสพติดทางสายตาหน้าจอกันไปเลยนะคะ เพลงก็เพราะ และศิลปินดาราที่มากันในวันนี้ก็มีหลายคนมาก ทั้งอินเดีย และประเทศไทย เรียกได้ว่าหล่อสวย และมีฐานแฟนคลับที่เยอะมากในประเทศไทย เพราะเนื่องจากว่ากระแสของปรากฏการณ์ภารตะพันล้าน เราเห็นกันหมดแล้ว โดยเฉพาะนาคินที่ฉายอยู่ทางช่อง 3 เดี๋ยวเราจะได้ดู จันทรคุปต์ ซึ่งเป็นภาคต่อจากอโศกมหาราช เพราะอโศกมหาราชก็เรียกว่าเป็น ทอค ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปแล้ว ความโดดเด่นก็คือว่าการที่เขาสร้างเป็นระดับอินเตอร์เนชั่นแนล เพราะฉะนั้นทุนหนามาก แต่ละเรื่องคือหลายร้อยล้าน ตลอดจนหลายพันล้านในบางเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นการส่งออกทั่วโลก”

    

        “แต่ละเรื่องก็อลังการงานสร้างตรงที่ว่ามันเป็นสงคราม เป็นมหากาพย์ฟอร์มยักษ์ อย่างเรื่องมหาภารตะ อยากให้ทุกท่านได้ดูกัน เพราะเนื่องจากว่านานๆ ทีสิบปีจะสร้างได้ที เพราะสร้างทีเขาใช้เงินเป็นพันกว่าล้าน แล้ววันนี้พระนางมากันหมดเลย แล้วเรตติ้งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอินเดียด้วยเช่นเดียวกัน เป็นมหากาพย์เหมือนกับรามเกียรติ์ สเปเชี่ยวเอฟเฟ็คอลังกาจริงๆ อยากให้ดูค่ะ แล้วก็ต่อด้วย เรื่องมหากาลี เทวีพิทักษ์โลกา ซึ่งจะฉายต่อจากนาคิน ก็เรียกได้ว่าช่อง 3 จัดดีๆมาทั้งนั้นเลยค่ะ”

    

        “วันนี้ซีรีส์ที่เปิดตัวกับทางช่อง 3 มีทั้งหมด 14 เรื่องค่ะ ประมาณ 800 ล้าน รวมอโศกมหาราช และนาคินด้วย แต่แบ่งเป็น 2 ปี ปีนี้น่าจะ 500 ล้าน ปีหน้า 300 ล้าน และก่อนหน้านี้กับเฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ช่อง 8 ก็เพิ่งเปิดตัวไป ประมาณ 10 เรื่อง 500 ล้านค่ะ ส่วนช่องไบร์ททีวีเปิดอีก 40 เรื่อง 100 กว่าล้าน แต่ช่องไบร์ทเป็นซีรีส์ฟิลิปินส์ เรื่องรักกระชากใจ เดอะซีรีส์ คนไทยต้องดูละคร ทีวีแต่ละช่องต้องมีละครเรตติ้งถึงจะดี ตอนนี้ซีรีส์เกาหลีไม่เอาแล้ว”

   

        “การที่เรามีลูกค้าเพิ่มขึ้นจึงเป็นเหตุผลที่เราปรับเป้าขึ้นมาจากเดิม 800 กว่าล้าน เราเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 2559 พอปี 2560 ก็ประมาณ 1,200 ล้าน ส่วนปีนี้ก็เพิ่มค่ะ เพิ่มทุกปี ปีละ 15% การเติบโตของรายได้ก็ประมาณ 1,400-1,500 ล้าน กำไรปีที่ผ่านมาก่อนภาษี 240 ล้าน หลังภาษีประมาณ 188 ล้าน ตอนนี้ปัญหาของบริษัทคือทำของส่งลูกค้าไม่ทัน แปล ภาคเสียง ทำไม่ทันเลยค่ะ ลูกค้าส่งงานมาแล้วเราทำไม่ทัน ตอนนี้ต้องสร้างตึกใหม่ เป็นสถานที่ทำสตูดิโอ โรงพากย์เสียง ที่กินอยู่คือของนักแปลนักพากย์ทั้งในและนอกประเทศ 24 ชั่วโมง ตอนนี้เราจึงต้องเร่งสร้างตึกใหม่ให้เสร็จก็เพิ่งวางศิลาฤกษ์ไปค่ะ เราทำเป็นสถานที่ที่เรียกว่าการทำงานโกลบอลคอนเทนท์เบอร์หนึ่งของประเทศ แต่ตึกนี้เป็นของ JKN Landmark ซึ่งเป็นบรษัทบริหารจัดการพื้นที่ 15 ไร่ ไม่เกี่ยวกับ เจเคเอ็น โกลบอลฯ ค่ะ”

    

        “เรากำลังจะขยายตลาดไปต่างประเทศ ไปที่ CLMV กับเซาท์อีสเอเชีย และในไทยปีนี้จะมีช่องอื่นๆ เข้ามาร่วมอีก 7 ราย ช่องดิจิทัลหมดเลยค่ะแต่ยังพูดไม่ได้ ตอนนี้เรามีลูกค้าที่เป็นทีวีดิจิทัลในประเทศไทยเกือบหมดทุกเจ้า แต่ละที่มีกำลังเงินแตกต่างกันไป 7 รายที่จะเข้ามานี้เป็นลูกค้ารายใหม่เลยค่ะ แต่เป็นรายใหม่ที่สตรองมากของประเทศ”