ไทด์ เอกพันธ์

ทางใครทางมัน!! ไทด์ ตัดขาด ปี๊ด กิตติกร เหตุภรรยา-เงินทำวุ่น

Home / Omgossip / ทางใครทางมัน!! ไทด์ ตัดขาด ปี๊ด กิตติกร เหตุภรรยา-เงินทำวุ่น

  จากกรณที่ ไทด์ เอกพันธ์ ประกาศตัดขาดที่จะให้ความช่วยเหลือ ปี๊ด กิตติกร เหตุเพราะว่าอดีตนักแสดงดาวร้าย จะแจ้งจับคุณอมตะที่ให้การช่วยเหลือมาตลอด เนื่องจากทรัพย์สินสูญหายและมีการล่วงเกินภรรยาสาว คิตตี้ ที่นักแสดงดาวร้ายเคยลั่นวาจาว่าจะไม่กลับไปหาอีก แต่ว่าสุดท้ายก็กลับไปอยู่ด้วยกันอีก พร้อมกันนี้ยังยืนยันคิตตี้สร้างเรื่องแน่นอน จากนี้เลยขอตัดขาดการช่วยเหลือทุกทาง ซึ่งไทด์ได้กล่าวว่า

  

  “ที่ผมบอกว่าจะตัดขาดพูดไปเพราะโมโห คือกิตติจะแจ้งจับอมตะ แล้วอมตะเป็นคนแรกเลยที่โทรบอกให้ผมไปช่วยเหลือพี่ปื้ด อยู่ๆจะมาแจ้งความจับถ้าเกิดจะจับอมตะก็ต้องจับผมด้วยสิ เพราะผมเป็นคนรื้อของอมตะไม่ได้รื้อ ผมเป็นคนรื้อของแกหมดทุกอย่างแล้วก็ถ่ายรูปไว้ทุกอย่างว่ามีอะไรบ้าง แกไปบอกอมตะว่านาฬิกาแกหายเรือนละล้านกว่าบาท มันจะอยู่หรือ เพื่อนแกก็พูดไปเรื่อย ว่าจะแจ้งจับอมตะถ้าจะแจ้งจับนั้นผมก็ขอยุติการช่วยเหลือพี่ เพราะผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าพี่จะกลับไปอยู่กับคิตตี้ ซึ่งผมก็เพิ่งรู้เพราะเขาโทรมาบอกว่าจะกลับไป ถ้างั้นผมไม่ยุ่งเกี่ยวนะ ตัดเลยนะถ้ากลับไป เขาก็บอกว่า แล้วแต่งั้นก็บอกอมตะด้วยว่าอย่ามายุ่งก้าวก่ายเขามากมาย เมื่อกี้ผมตกใจมาก ว่าอมตะไปลูบศีรษะลูบหลังภรรยาเขาอันนี้คือข่าวใหม่ อมตะไม่ได้เป็นคนอย่างนั้นผมกล้ายืนยัน อมตะเป็นคนดี เขาเจอคิตตี้ เขาสอนตลอดเวลาสอนให้ทำตัวอย่างนั้นอย่างนี้ อมตะเขาเป็นคนธรรมะธัมโมเขาสอนตลอด ผมกล้าเอาเกียรติผมรับเลยอมตะไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด ผมคิดว่าคิตตี้สร้างเรื่องขึ้นมาแล้วพูดให้พี่กิตติฟังจะได้โมโหอมตะแล้วตัดเขาออกจากการช่วยเหลือ เพราะอมตะดูแลเรื่องเงินเขาด้วย ทำไมอมตะต้องไปยุ่งวุ่นวายกับเงิน เพราะว่าคิตตี้มาขอเงินป้าแจ๊ะ (พี่สาวกิตติ) อยู่ตลอดเวลา สามพัน ห้าพัน บางทีเป็นหมื่นป้าแจ๊ะก็ต้องให้ เขาอ้างว่าเอาไปดูแลลูกก็ต้องให้ อมตะรู้เขาเลยปรามบอกไม่ต้องให้แล้ว ถ้าให้ไปเยอะๆ แล้วไม่มีคนบริจาคหมดเงินขึ้นมาจะทำยังไง คืออมตะเขาเป็นห่วง พอเขามาขอป้าแจ๊ะป้าอาจไม่ให้ เขาก็เลยเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้สามีเขาฟัง เป็นเรื่องเป็นราวกันขึ้นมา”

  (มีเรื่องของเงินบริจาคที่คิตตี้เอาไปใช้ ?) “อันนั้นมันเรื่องของปีที่แล้วไง เขาก็พูดในรายการว่าถ้าเขาเอาไปใช้นะแจ้งจับเขาได้เลย พอเราไปตรวจสอบดูเขากดเงินไป 80000 กว่าเกือบแสน พอจับได้ก็ร้องห่มร้องไห้ เราก็ให้พี่ปื้ดจัดการไป พี่ปื้ดก็ยกโทษให้ขอว่าอย่ายุ่งเกี่ยวกันอีก”

  (ตอนนี้ยื่นคำขาดว่าจะไม่มีการช่วยเหลืออีก?) “ใช่ครับ ตอนแรกที่เขาบอกจะแจ้งจับ พี่ขึ้นมากเลย โมโห ก็บอกต่อไปจะไม่ช่วยเหลือพี่แล้ว ขอตัดขาดจากพี่นะ เขาก็โอเคไม่เป็นไร ตัดขาดก็ตัดเพราะเขารับปากกับทุกคนแล้วว่าจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับภรรยาของเขาอีก แต่นี่เขากลับไปแล้ว พูดเมื่อกี้เลยว่าเขาจะกลับไปตอนที่เขาหาย ก็โอเคถ้าเขาจะกลับไปแล้วอยู่กันแบบสามีภรรยาและลูกๆ แล้วครอบครัวเดียวกันเราสนับสนุน ขาดเหลืออะไรบอก เราไปช่วยได้ ถ้าเขากลับไปอย่างมีความสุข และดูแลพี่ปื้ดอย่างสามีจริงๆ ที่ภรรยามีหน้าที่ควรจะดูแลสามีตอนที่สามีเจ็บไข้ได้ป่วย ตอนที่สามีไม่ได้ป่วยเขาถ่ายละครเขามีเงินมา คุณก็ไปรับเงินเงินเขามาใช้จ่ายส่วนตัวตลอด พี่ปื้ดแทบจะไม่ได้ใช้เงิน ถ้าเกิดเขาเอาพี่ปื้ดไปดูแลให้ดีๆ ผมพร้อมที่จะช่วยเหลือจริงๆ”

  (ตอนนี้มีห่วงอะไรพี่กิตติมั้ย?) “ห่วงทุกเรื่องครับ ยังห่วยใยทุกเรื่องเพราะว่าสงสาร พี่ปื้ดเป็นคนที่หัวอ่อน ใครพูดอะไรแกจะเชื่อหมดทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วเวลาแกไม่พอใจ แกจะกลับคำพูด คือต้องเข้าใจว่าพี่ปื้ดป่วยเรื่องสมอง บางครั้งผมก็เข้าใจแกนะ ไอ้ที่บอกว่าจะตัดตอนแรกก็เพราะว่าโมโห พูดด้วยความโมโห แต่จริงๆแล้วมันตัดไม่ได้หรอก เราก็ยังจะให้ความช่วยเหลือกันอยู่”

  (ความรู้สึกของไทด์ในวันที่พี่กิตติกลับไปหาภรรยา) “ถ้าเกิดว่าไปดีแล้วเราก็ดีใจ คือในใจผมคิดเสมอว่าจะอยู่ได้นานสักแค่ไหน เขาจะดูแลเหมือนกับพี่สาวเขาดูแลมั้ย คอยป้อนข้าว คอยเอายา คอยอาบน้ำ คอยเช็ดตัวให้ เขาจะทำมั้ย กลัวจะเอาไปเป็นแค่ตัวประกันเพื่อเงินก้อนนี้เท่านั้นเองที่เขาเอาไปอยู่ดูแล สมมตุว่าพี่ปื๊ดไปอยู่ด้วยกัน เงินทุกบาททุกสตางค์ตรงนี้ก็ต้องโอนไปให้เขา ประมาณ 3 แสนกว่าบาท จาก 2 บัญชี บัญชีแรกคือของปีที่แล้ว ที่มีเงินบริจาคประมาณ 6 แสนกว่าบาท แล้วก็บัญชีที่เปิดใหม่เหลืออยู่ประมาณ 2 แสนกว่าบาท ใช้จ่ายไปก็เหลืออยู่ประมาณ 3 แสนกว่าบาท ตอนนี้บัญชีปิดไปแล้วครับ คือบอกอมตะว่าเราไม่ยุ่งแล้ว เอาไปให้ป้าแจ๊ะเขาหมดลย ตอนนี้ถอน ฝาก โอนอยู่กับป้าแจ๊ะพี่สาวเขาคนเดียว

  (ตอนนี้พี่ปี๊ดอยู่กับป้าแจ๊ะ?) “พึ่งกลับมาครับ ป้าแจ๊ะไปรับมาจากบ้านเช่าหลังหนึ่งซึ่งอยู่กับคิตตี้ ไปอยู่เป็นเดือนเหมือนกันนะ กลับไปเห็นป้าแจ๊ะบอกก็สภาพเหมือนเดิม ซูบผอมเหมือนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว เขาก็รับน้องชายมา เอามาดูแลป้าบอกว่าทางนั้นยาไม่ให้กินเลย”

  (สิ่งที่กังวลคือถ้าเงินเริ่มหมดก็เหมือนเดิมใช่มั้ย?) “นี่แหละครับที่กังวล ถ้าเงินก้อนนี้หมดผมก็ไม่รู้ว่าอนาคตพี่ปื้ดจะเป็นยังไง ผมต้องเอารถพยาบาลไปรับที่หัวหินกลับมาที่บ้านพี่สาวหรือเปล่า ตอนนี้คือเป็นห่วงแกทุกอย่างเพราะแกใช้เงินไม่ได้ แค่ได้กินอย่างเดียวจะไปซื้อของคือซื้อไม่ได้ เงินก้อนนี้คืออยู่ในความดูแลของพี่สาว แต่ถ้าแกกลับไปอยู่กับภรรยาเมื่อไหร่ เงินก้อนนี้จะเปลี่ยนมือไปอยู่กับภรรยา ซึ่งถ้ามันวนลูปไปเป็นเหมือนเดิมผมก็คงต้องช่วย เห็นหน้าแกแล้วอดสงสารไม่ได้คือต้องยื่นมือเข้าไปช่วยอยู่แล้ว”

  (มองว่าสิ่งที่เราทำเป็นการทำคุณบูชาโทษมั้ย?) “ไม่ครับ ผมมองว่าจิตใจแกเนี่ยยังอยู่กับภรรยา ภรรยาก็อายุแค่ 27  ยังเป็นวัยรุ่นยังสาวอยู่ แกก็หวงเป็นธรรมดา ก็อยากจะอยู่ด้วยอาจเป็นเพราะว่าต้องการกำลังใจ อย่างที่แกบอกกำลังใจคือลูกและภรรยา ที่อยากจะให้แกฟื้นเร็วๆ หรือว่ากลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ทุกคนก็ให้กำลังใจแก แกก็อยากจะได้กำลังใจจากครอบครัว ถ้าไปได้ดีจริงๆกับครอบครัว แกต้องการอะไรเราก็อยากจะให้แก แค่ให้กลับมาหายเร็วๆเดี๋ยวเสร็จจากนี้ก็จะโทรคุย ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรที่เราจะต้องคุยกัน ถ้าเกิดว่าเป็นอย่างนั้นแกอาจจะขอความช่วยเหลือผมก็ยังไม่ทราบว่าจะคุยอะไร”

  (ได้คุยกับคิตตี้บ้างมั้ย?) “กับคิตตี้ผมก็พูด เจอครั้งแรกผมก็ตักเตือนไปตลอดเวลา ผมก็บอกเขาด้วยนะ ถ้าเกิดนักข่าวสัมภาษณ์อย่าบอกว่าลูกสาวเด็ดขาด ให้พูดความจริง พูดไปเลยอย่ามาโกหกว่าเป็นลูกสาวๆเขาจับได้ทีหลังนี่มันไม่ดีมันเสียความรู้สึก เป็นเมียก็เป็นเมีย ไม่ใช่มาเป็นลูกสาวนู้นนี่ ถ้าลูกสาวพ่อเป็นแบบนี้ทำไมไม่มาดูแล ลูกสาวยิ่งจะต้องดูแลกว่าภรรยา เขาก็ไปโทษพี่ปื้ดอีกว่าพี่ปื้ดให้บอกว่าเป็นลูกสาว”

  (ตอนนี้ยืนยันว่าคุณอมตะตัดขาดไม่มีการช่วยเหลือแล้ว?) “คืออมตะเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร ที่พี่ปื้ดเป็นอย่างนี้เพราะใครเขารู้อยู่แล้ว กับพี่ปื้ดเขาไม่อะไรอยู่แล้ว แต่พี่ปื้ดไปเชื่อคิตตี้แล้วเอามาพูดอย่างนี้ไง แต่โทรหาโดยตรงกับอมตะก็ไม่กล้า ต้องมีคนกลางไปบอกอย่างนี้ไง”

  (อยากฝากอะไรกับพี่กิตติ-คิตตี้มั้ย?) “ถ้าเกิดว่าทั้งคู่จะกลับไปใช้ชีวิตเฉกเช่นสามีภรรยากับลูกๆ อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา อย่างที่เขาพูดขึ้นมาผมก็น้ำตาจะไหลที่พี่ปื้ดบอกว่าลูกๆ พออยู่ที่ ร.ร. มีกิจกรรมวันพ่อวันแม่ ก็ต้องมีผู้ปกครองไปที่โรงเรียน พี่ปื้ดพูดผมก็รู้สึกสะอึกเหมือนกัน ถ้าเกิดว่าพี่ปื้ดอยากจะใช้ชีวิตครอบครัว ผมพร้อมนะครับพี่ พร้อมที่จะช่วยเหลือพี่ทุกอย่าง ผมอยากให้พี่กลับมาอยู่ในสภาพร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม เป็นพี่ชายที่แสนดีแล้วก็มีเหตุมีผล ฝากบอกคิตตี้ด้วย อย่าพยายามสร้างเรื่องราวให้คนอื่นเขาเดือดร้อน ชีวิตคุณก็อยู่ส่วนชีวิตคุณ ดูแลสามีให้ดีดูแลลูกให้ดี อย่าไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น เพราะว่าสิ่งที่คุณทำมันจะย้อนกลับไปหาตัวคุณแล้วตัวคุณจะมีชีวิตอยู่ลำบากมากนะครับ เพราะว่าคุณสร้างเรื่องเก่งมาก หยุดสักที หยุดให้ข้อมูลที่ไม่ดีกับพี่ปื้ดแล้วก็มีรักกันใหม่ ดูแลลูกดูแลกันไปขาดเหลืออะไรพี่ช่วยได้”

 

 

ไทด์ เอกพันธ์

 

ไทด์ เอกพันธ์- ปี๊ด กิตติกร
ไทด์ เอกพันธ์- ปี๊ด กิตติกร

 

ไทด์ เอกพันธ์- ปี๊ด กิตติกร
ไทด์ เอกพันธ์- ปี๊ด กิตติกร